วัดคินคะคุจิ(Kinkakuji) ที่คนไทยทั่วไปรู้กันในชื่อว่าวัดทองนั่นเอง สาเหตุที่คนส่วนมากเรียกวัดนี้ว่าวัดทองนั่นก็เพราะว่าอาคารหลักของวัดนี้มีสีทองเหลืองอร่ามตั้งโดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางน้ำ เวลามองภาพสะท้อนก็กลายเป็นภาพที่งดงามไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าดังขนาดกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์หนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโตเลย วัดแห่งนี้มีชื่อทางการว่าวัดโรกูอนจิ ที่มีความหมายว่าวัดสวนกวาง วัดแห่งนี้มีความเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1397 เพื่อใช้เป็นที่พำนักของโชกุน เป็นอาคารไม้สามชั้น มีความสูง 12.5 เมตรใช้เป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองคนสำคัญ ภายหลังจึงกลายเป็นวัดในปัจจุบัน
ระหว่างช่วงสงครามโอนิน ปีค.ศ.1467–1477 วัดได้ถูกไฟไหม้ แต่ครั้งที่สำคัญที่สุดคือในปี ค.ศ. 1950 ตัวทำให้ได้รับความเสียหายจนแทบไม่เหลือซาก ดังนั้นวัดคินคะคุจิในปัจจุบันนั้น ก็คือตัวอาคารที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1955 โดยนังรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ และยังได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการใช้แผ่นทองสรรค์สร้างจนได้เป็นความงดงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
นอกจากตำหนักทองแล้ว Kinkakuji ยังมีจุดน่าสนใจอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสวนญี่ปุ่นเนื้อที่ 92,400 ตารางเมตรรายรอบบ่อน้ำที่สะท้อนเงาวัดทอง ชม Anmin-taku เจดีย์หินขนาดเล็กบนเกาะกลางน้ำภายในสวนที่มีความเชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานของเทพประจำตระกูล ในวันที่อากาศดีขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดการจิบชาชมสวน ในวัดซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลกรับรองว่าต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสอย่างแน่นอน