หน้าหลัก
ทัวร์ส่วนตัวญี่ปุ่น
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูหนาว
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูซากุระ
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูร้อน
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ทัวร์ญี่ปุ่นส่วนตัวสำเร็จรูป
ทัวร์ส่วนตัวอื่นๆ
ทัวร์เกาหลีส่วนตัว
ทัวร์เวียดนามส่วนตัว
ทัวร์ฮ่องกงส่วนตัว
ทัวร์ไต้หวันส่วนตัว
ทัวร์จีนส่วนตัว
ทัวร์มัลดีฟส่วนตัว
ทัวร์อินเดียส่วนตัว
ทัวร์ยุโรปส่วนตัว
ทัวร์จอยกรุ๊ป
ทัวร์ญี่ปุ่น
ทัวร์เกาหลี
ทัวร์ฮ่องกง
ทัวร์สิงคโปร์
ทัวร์จีน
ทัวร์ไต้หวัน
ทัวร์จอร์เจีย
ทัวร์เวียดนาม
ทัวร์ตุรกี
ทัวร์บาหลี
ทัวร์พม่า
ทัวร์เอเชีย
ทัวร์ยุโรป
ทัวร์แอฟริกาใต้
จัดทัวร์กรุ๊ปเหมา หมู่คณะ
ผลงานของเรา
บทความท่องเที่ยว
เกี่ยวกับเรา
บริษัท ดีแพลนทัวร์ จำกัด
083-751-6663
088-646-6637
096-926-1949
096-896-9386
dplantour@gmail.com
@dplantour
หน้าหลัก
ทัวร์ส่วนตัวญี่ปุ่น
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูหนาว
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูซากุระ
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูร้อน
ทัวร์ญี่ปุ่น ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ทัวร์ญี่ปุ่นส่วนตัวสำเร็จรูป
ทัวร์ส่วนตัวอื่นๆ
ทัวร์เกาหลีส่วนตัว
ทัวร์เวียดนามส่วนตัว
ทัวร์ฮ่องกงส่วนตัว
ทัวร์ไต้หวันส่วนตัว
ทัวร์จีนส่วนตัว
ทัวร์มัลดีฟส่วนตัว
ทัวร์อินเดียส่วนตัว
ทัวร์ยุโรปส่วนตัว
ทัวร์จอยกรุ๊ป
ทัวร์ญี่ปุ่น
ทัวร์เกาหลี
ทัวร์ฮ่องกง
ทัวร์สิงคโปร์
ทัวร์จีน
ทัวร์ไต้หวัน
ทัวร์จอร์เจีย
ทัวร์เวียดนาม
ทัวร์ตุรกี
ทัวร์บาหลี
ทัวร์พม่า
ทัวร์เอเชีย
ทัวร์ยุโรป
ทัวร์แอฟริกาใต้
จัดทัวร์กรุ๊ปเหมา หมู่คณะ
ผลงานของเรา
บทความท่องเที่ยว
เกี่ยวกับเรา
Category
บทความทั่วไป
26
Oct
October 26, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก เกอิชา (Geisha) : สาวงามผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ คืออะไร ต่างจากไมโกะและโออิรันยังไง
เกอิชา คืออะไร เกอิชา (Geisha) คือ หญิงที่มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะ สร้างความบันเทิงให้กับแขกด้วยการร่ายรำ ขับร้อง เล่นดนตรี ไปจนถึงการปรนนิบัติบริการอย่างรินเหล้า เป็นต้น เอกลักษณ์ของเกอิชาคือการทาหน้าขาว ใส่ชุดกิโมโนหรูหราและทำผมอลังการ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเกอิชาคืออาชีพขายบริการ แต่อันที่จริงแล้วเกอิชาไม่ใช่อาชีพอย่างว่า คำว่าเกอิชา (芸者) แปลตรงว่า “ศิลปิน” เกอิชาจึงถือเป็นศิลปินที่แสดงศิลปะชั้นสูงของญี่ปุ่นดั้งเดิม เกอิชาคือคำเรียกในฝั่งคันโต ส่วนฝั่งคันไซจะเรียกว่า เกอิโกะ (Geiko) นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกว่าเกอิงิ ทั้งหมดนี้ล้วนหมายถึงอาชีพเดียวกัน ในปัจจุบันยังมีหลายที่ที่มีเกอิชาตัวเป็นๆ ให้ได้ไปพบปะกันจริงๆ ประวัติของเกอิชา เกอิชามีประวัติความเป็นมายาวนานย้อนไปถึงสมัยเอโดะ แรกเริ่มแล้วเกอิชาเป็นผู้ชาย มีหน้าที่ร้องเล่นเต้นรำสร้างความบันเทิง ต่อมาจึงกลายเป็นผู้หญิงอย่างทุกวันนี้ ในอดีต ผู้ที่มาเป็นเกอิชามีทั้งที่เป็นโดยสมัครใจและถูกซื้อตัวมา แต่ในปัจจุบัน คนที่มาเป็นเกอิชาคือผู้ที่สนใจและสมัครใจเป็นเอง หน้าที่ของเกอิชา เกอิชามีหน้าที่สร้างสีสันในงานเลี้ยง โดยในส่วนของการแสดงนั้นจะแบ่งออกเป็นหน้าที่หลักๆ ดังนี้ ทาจิคาตะ คือเกอิชาที่มีหน้าที่ร่ายรำ จิคาตะ คือนักดนตรี มีหน้าที่ขับร้องและเล่นเครื่องดนตรี เช่น ชามิเซ็น ขลุ่ย กลอง ไทโกะโมจิ คือเกอิชาที่มีหน้าที่สร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นด้วยการเล่นตลกหรือการใช้คำพูดต่างๆ เกอิชายังมีความสามารถด้านศิลปะอื่นๆ เช่น...
Read More
26
Oct
October 26, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก เสื่อ ทาทามิ (Tatami) : เสื่อญี่ปุ่นโบราณที่ยังมีในปัจจุบัน คืออะไร
ทาทามิ คืออะไร เสื่อทาทามิ (Tatami) คือ เสื่อญี่ปุ่นโบราณที่ทอจากพืช ห้องแบบญี่ปุ่นหรือวะชิตสึ (和室) มีเอกลักษณ์อยู่ที่การปูเสื่อทาทามินี่เอง ทาทามิ จึงพบเห็นได้ทั่วไปในบ้านโบราณ ห้องพักแบบญี่ปุ่นในเรียวกัง สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ไปจนถึงบ้านเรือนทั่วไป ชื่อ ทาทามิ มาจากคำว่า ทาทามุ (畳む) ที่แปลว่าซ้อนหรือทับ คาดว่าในช่วงแรกทาทามิใช้ปูซ้อนกันเป็นชั้นๆ หรืออาจมาจากตอนเก็บที่ต้องพับซ้อนกัน เสื่อทาทามิช่วยปรับอุณหภูมิและความชื้นในห้อง มีความนุ่มสบายเท้า เก็บเสียงได้ดี มีกลิ่นหอมของหญ้านิดๆ เหมาะกับสภาพอากาศของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ ทาทามิจึงยังคงหลงเหลืออยู่ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน ประวัติของเสื่อทาทามิ ว่ากันว่าเสื่อทาทามิถือกำเนิดขึ้นในญี่ปุ่น ไม่ได้รับมาจากจีน โดยคาดว่าเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยนารา ต่อมาในสมัยเฮอัน เสื่อทาทามิกลายเป็นเครื่องแสดงฐานะและความร่ำรวยของชนชั้นสูง จนเมื่อเข้าสู่สมัยเอโดะ เสื่อทาทามิจึงแพร่กระจายไปในหมู่สามัญชนและใช้ปูพื้นบ้านทั่วไปอย่างทุกวันนี้ เสื่อทาทามิทำจากอะไร ทาทามิแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนทำมาจากวัสดุต่างกันไป ได้แก่ ทาทามิโอโมเตะ ทาทามิโอโมเตะ คือผิวส่วนหน้าของเสื่อ ทำจากหญ้าที่ชื่อว่า อิกุสะ ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาความชื้นและอุณหภูมิ นอกจากนี้ กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเสื่อทาทามิก็มาจากอิกุสะนี่เอง ทาทามิโดโกะ ทาทามิโดโกะ คือเนื้อเสื่อที่อยู่ใต้ทาทามิโอโมเตะ ทำจากฟางอัด...
Read More
26
Oct
October 26, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก สึคุเนะ : Tsukune คืออะไร
สึคุเนะคืออะไร สึคุเนะ (Tsukune) คือลูกชิ้นชนิดหนึ่ง ทำโดยนำเนื้อสัตว์มาสับหรือบดละเอียด ผสมไข่ ปรุงรส ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วนำไปทอดหรือย่าง ระหว่างย่างมักทาซอสด้วย สึคุเนะ มาจากกริยาที่แปลว่านวดหรือปั้น (捏ねる) จึงมีลักษณะเป็นก้อนกลมหรือรี ตามร้านยากิโทริมักเสียบไม้เพราะปรุงให้สุกโดยการย่าง สึคุเนะคือหนึ่งในเมนูแกล้มเหล้ายอดนิยมตามร้านยากิโทริหรืออิซากายะ แต่ก็นิยมทำในครัวเรือนด้วยเช่นกัน
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
,
บทความอาหาร
รู้จัก เอนกาวะ (Engawa) : ปลาตาเดียว ญี่ปุ่น คืออะไร
เอนกาวะคืออะไร เอนกาวะ (Engawa) คือครีบส่วนบนที่ใช้ในการว่ายน้ำของปลาตาเดียว เนื้อเป็นสีขาว ค่อนข้างมัน มีความกรุบเวลาเคี้ยว นิยมเผาไฟให้หอม ใช้เป็นหน้าซูชิ ปลาตาเดียวมี 2 ชนิด ได้แก่ ปลาฮิราเมะ (ปลาตาเดียว) กับ ปลาคะเรย์ (ปลาลิ้นหมา) เอนกาวะที่ได้จากคะเรย์มากกว่าฮิราเมะจึงมีราคาถูกกว่า เอนกาวะในร้านซูชิหมุนทั่วไปจึงมักใช้คะเรย์ หากเป็นฮิราเมะจะมีราคาสูงกว่ามาก นอกจากนั้นเอนกาวะของคะเรย์ยังมีความมันมากกว่าอีกด้วย
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก โคฉะ (Kocha) : ชาฝรั่ง ของญี่ปุ่น คืออะไร
ชาฝรั่ง คืออะไร ชาฝรั่ง หรือ โคฉะ (Kocha) ในภาษาญี่ปุ่น ต่างจากชาเขียวตรงที่ผ่านกระบวนการหมักจนกลายเป็นสีแดง ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับชาอู่หลง แต่หมักยาวนานกว่าจึงสีเข้มกว่าชาอู่หลงที่ออกสีส้ม การหมักชาในที่นี้ต่างจากการหมักโยเกิร์ตด้วยแบคทีเรีย แต่หมายถึงการหมักโดยทำให้ใบชาเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ชาฝรั่งเรียกว่าเป็น “ชาที่หมักโดยสมบูรณ์” ซึ่งกระบวนการนี้จะหยุดชะงักเมื่อถูกความร้อน ชาเขียวที่นำไปผ่านความร้อนแต่แรกจึงเป็น “ชาที่ไม่ผ่านการหมัก” ส่วนชาอู่หลงที่เพิ่มการใส่ความร้อนเข้าไปเพื่อหยุดการหมักถือเป็น “ชากึ่งหมัก” ชาฝรั่งอาจหมายถึงทั้งชาแดงและชาดำ โดยตัวคันจิคำว่าโคฉะ (紅茶) จะแปลว่าชาแดง แต่ด้วยความที่ญี่ปุ่นไม่มีสิ่งที่ชื่อว่า “ชาดำ” โคฉะจึงเหมารวมชาสีเข้มทั้งชาแดงและชาดำ แม้ชาฝรั่งจะเป็นชาที่นิยมในตะวันตก แต่ญี่ปุ่นก็มีชาฝรั่งขายตามร้านสะดวกซื้อ ตู้กดน้ำและซูเปอร์ทั่วไป รวมถึงยังพบในคาเฟ่อยู่บ่อยๆ ชานมตัวฮิตก็ทำมาจากชาฝรั่่งเช่นกัน ประโยชน์ของชาฝรั่ง ชาดำหรือชาแดงมีคาเฟอีนสูง ทำให้รู้สึกสดชื่น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและระบบกล้ามเนื้อหัวใจ และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกับชาเขียว นอกจากนี้ยังกลิ่นหอม หลายคนจึงชอบกลิ่นของชาฝรั่งมากกว่าชาเขียว
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก อินาริซูชิ (Inari sushi) : ซูชิเต้าหู้หวาน คืออะไร
อินาริซูชิ (Inari sushi) คือ ซูชิห่อในเต้าหู้ ที่นำข้าวปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูมายัดลงในเต้าหู้หวานทอดที่มีลักษณะเป็นถุงสี่เหลี่ยม ชื่อ อินาริ มาจากเทพจิ้งจอกอินาริที่มีเชื่อกันว่าชอบเต้าหู้ทอดนี้ นอกจากนี้เทพอินาริยังเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ พืชพรรณธัญญาหารและข้าวอีกด้วย ข้าวด้านในอาจเป็นข้าวผสมน้ำส้มสายชูเปล่าๆ หรือคลุกเครื่องก็ได้ เปลือกเต้าหู้ของอินาริซูชิปรุงรสด้วยโชยุ จึงมีรสชาติในตัวอยู่แล้ว จึงไม่นิยมจิ้มโชยุซ้ำ มักทานเปล่าๆ อย่างนั้นเลย อินาริซูชิของฝั่งคันโตกับคันไซต่างกันเล็กน้อย ตรงที่ถุงเต้าหู้ของฝั่งคันโตจะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนฝั่งคันไซจะเป็นสามเหลี่ยม สามารถหาซื้ออินาริซูชิได้ตามร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก ซามูไร (Samurai) : นักรบญี่ปุ่นโบราณผู้ภักดียิ่งชีพ คืออะไร
ซามูไร คือใคร ซามูไร (Samurai) คือ นักรบญี่ปุ่นโบราณ มีบทบาทในการคุ้มกันผู้มีอำนาจในสมัยก่อน ขึ้นชื่อเรื่องความจงรักภักดี เชี่ยวชาญการใช้อาวุธโดยเฉพาะดาบ ยึดหลักวิถีนักรบที่เรียกว่าบูชิโดที่ให้ความสำคัญกับเกียรติและศักดิ์ศรี ประวัติศาสตร์ซามูไร กล่าวกันว่าประวัติศาสตร์ซามูไรเริ่มต้นในสมัยเฮอัน คำว่า ซามูไร (侍) มาจากคำว่า ซาบุราอุ (侍う) ซึ่งแปลว่า รับใช้ แรกเริ่มซามูไรจึงเป็นอาชีพที่รับใช้ชนชั้นสูงที่มีอำนาจ ต่อมาเมื่อมินาโมโตะ โยริโตโมะขึ้นเป็นโชกุนคนแรกและตั้งรัฐบาลคามาคุระขึ้น ก็ได้มีการจัดตั้งหน่วยซามูไร ทำให้ซามูไรมียศฐานะบรรดาศักดิ์สูงขึ้น มีบทบาทมากขึ้น รวมถึงมีการแบ่งชนชั้นในหมู่ซามูไร เมื่อเข้าสู่ยุคเซ็นโกคุซึ่งเป็นยุคสงคราม นิยามของซามูไรก็ได้เปลี่ยนไป ผู้ที่เข้ารบในสงครามจะถือว่าเป็นซามูไรทั้งหมด จนต่อมาบ้านเมืองเริ่มสงบสุขในยุคเอโดะ ซามูไรใช้เรียกตำแหน่งระดับค่อนไปทางล่างของรัฐบาล และเมื่อรัฐบาลเอโดะล่มสลายไปพร้อมกับระบบศักดินาในยุคเมจิ ซามูไรก็สูญสิ้นไปเช่นกัน บูชิโด (Bushido) คืออะไร บูชิโด (武士道) แปลว่าแนวทางของนักรบ หมายถึงหลักการที่นักรบญี่ปุ่นรวมถึงซามูไรยึดปฏิบัติ ให้ความสำคัญกับหลัก 7 ประการ ได้แก่ ความยุติธรรม ความกล้าหาญ ความเมตตา การเคารพผู้อื่น ความซื่อสัตย์ ศักดิ์ศรี และความจงรักภักดี หลักการบูชิโดนี้นำมาซึ่งธรรมเนียม เซ็ปปุกุ (Seppuku)...
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก ตุ๊กตา ดารุมะ (Daruma) : ตุ๊กตาล้มลุกขอพร คืออะไร ทำไมมีตาข้างเดียว
ดารุมะ คืออะไร ตุ๊กตาดารุมะ (Daruma) คือ ตุ๊กตาล้มลุกของญี่ปุ่น ทรงกลมไม่มีแขนขา ทำจากไม้ ด้านในกลวง มักเป็นสีแดง อาจมีดวงตาข้างเดียวหรือไม่มีทั้งสองข้าง ทั้งนี้เพราะการเขียนดวงตาให้กับดารุมะนี้เองคือธรรมเนียมขอพรอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่น ดารุมะถือเป็นของนำโชค เพราะเป็นตุ๊กตาล้มลุกที่ไม่ว่าจะผลักกี่ครั้งก็ตั้งกลับขึ้นมาได้เสมอ จึงเป็นเครื่องหมายของความพยายามและความสำเร็จ ประวัติความเป็นมาของดารุมะ ที่มาของดามุระออกจะน่ากลัวสักหน่อย ว่ากันว่าต้นแบบของดารุมะมาจากพระชาวอินเดียที่ชื่อ ดารุมะไดชิ (達磨大師) ผู้นั่งสมาธิเป็นเวลาถึง 9 ปีจนแขนขาเปื่อยเน่าและผุสลายไป มีทฤษฎีว่าธรรมเนียมวาดตาให้ดารุมะเริ่มในสมัยเอโดะ ช่วงนั้นเกิดการระบาดของไข้ทรพิษขึ้น ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายต่อดวงตา จึงมีการทำดารุมะไร้ตาขึ้นเพื่อวาดดวงตาลงไปเป็นการขอพรให้ช่วยคุ้มครองตนจากโรคนี้ ที่มักทาเป็นสีแดงก็เพราะเชื่อกันว่าสีแดงจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี การวาดดวงตาขอพร วิธีขอพรคือให้วาดดวงตาข้างซ้ายของตุ๊กตาก่อน (จะอยู่ขวามือของเราเมื่อหันหน้าเข้าตุ๊กตา) แล้วจึงอธิษฐานสิ่งที่อยากให้เป็นจริง เมื่อสมหวังแล้วให้มาวาดดวงตาอีกข้างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวว่าต้องวาดข้างซ้ายก่อนเสมอ กรณีไม่สมหวัง จะวาดหรือไม่วาดดวงตาอีกข้างก็ได้ ไม่ว่าจะสมหวังหรือไม่ เมื่อผ่านไป 1 ปีก็ควรนำไปคืนที่วัดหรือศาลเจ้า เนื่องจากเชื่อกันว่าตุ๊กตาจะคอยรับสิ่งไม่ดีแทนเรา แม้ไม่สมหวัง บางคนอาจวาดดวงตาอีกข้างให้ตุ๊กตาเป็นการขอบคุณที่ช่วยปกป้องมาตลอด 1 ปี สีของดารุมะ นอกจากสีแดงแล้ว ตุ๊กตาดารุมะ ยังมีหลายสี โดยแต่ละสีก็จะมีความหมายแตกต่างกัน ได้แก่ สีแดง ปัดเป่าภัยอันตราย สีดำ...
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก ซากุระโมจิ (Sakura mochi) : โมจิสีชมพูแห่งฤดูใบไม้ผลิ คืออะไร
ซากุระโมจิ (Sakura mochi) คืออะไร ซากุระโมจิ คือ ขนมที่ทำจากแป้งโมจิสีชมพู ไส้ทำจากถั่วแดงกวน ห่อด้านนอกอีกชั้นด้วยใบซากุระแช่เกลือ รสหวานออกเค็มนิดๆ หอมกลิ่นใบซากุระ เป็นขนมประจำฤดูใบไม้ผลิ และนิยมทานในวันเด็กผู้หญิงอีกด้วย ซากุระโมจิแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โชเมจิ หรือแบบคันโต และ โดเมียวจิ หรือแบบคันไซ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนี้ โชเมจิ (คันโต) ซากุระโมจิของคันโตจะเป็นแผ่นแป้งแบนเรียบ ทำจากแป้งสาลี เนื้อจึงจึงมีลักษณะคล้ายแป้งเครป ว่ากันว่ากำเนิดมาจากวัดโชเมจิจึงเรียกกันด้วยชื่อนี้ โดเมียวจิ (คันไซ) ซากุระโมจิของฝั่งคันไซทำจากการนำข้าวเหนียวไปนึ่งและทำให้แห้ง ก่อนจะนำไปบดแล้วนึ่งอีกครั้ง มีเอกลักษณ์ที่ข้าวยังเป็นเม็ดอยู่ ซึ่งแป้งโดเมียวจินี้เป็นวิธีการถนอมอาหารของวัดโดเมียวจิ ใบที่ห่อซากุระโมจิทานได้หรือไม่ แม้ในหมู่คนญี่ปุ่นเอง ประเด็นนี้ก็ยังเป็นที่สงสัยกัน คำตอบก็คือ จะเอาออกหรือกินไปพร้อมกับโมจิก็ได้ หากกินเปล่าๆ จะออกรสหวาน กินพร้อมกับใบจะมีรสเค็มด้วย
Read More
25
Oct
October 25, 2023
dplantour
บทความทั่วไป
รู้จัก ฮาจิโกะ (Hachiko) : สุนัขผู้ซื่อสัตย์แห่งชิบูย่า
ฮาจิโกะ คือใคร ฮาจิโกะ (Hachiko) คือ สุนัขยอดกตัญญูผู้ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความภักดีนี้ทำให้ชาวญี่ปุ่นประทับใจและสร้างรูปปั้นฮาจิโกะที่หน้าสถานีชิบูย่า จนกลายมาเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ต้องแวะไปเมื่อไปเยือนชิบูย่า แม้คนไทยจะเรียกติดปากกันว่าฮาจิโกะ แต่อันที่จริงแล้วสุนัขตัวนั้นชื่อว่าฮาจิ (Hachi) ส่วนคำว่าโกะหรือโค (公) นั้นแปลว่ารูปปั้น รู้จักกับฮาจิ ฮาจิคือสุนัขพันธุ์อากิตะ เพศผู้ เกิดในปี 1923 ยุคไทโช ในจังหวัดอากิตะ ต่อมาศาสตราจารย์อุเอโนะ ฮิเดซาบุโร่ก็ได้มารับไปเลี้ยงและพาไปอยู่ด้วยกันที่โตเกียว ศาสตราจารย์รักมันมากและตั้งชื่อให้ว่าฮาจิ ศาสตราจารย์อุเอโนะเป็นศาสตราจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโตเกียว (Tokyo Imperial University) ศาสตราจารย์จะเดินทางไปขึ้นรถไฟที่สถานีชิบูย่าเพื่อไปมหาวิทยาลัยโดยมีเจ้าฮาจิมาส่งที่ทางเข้าสถานี และเมื่อถึงตอนเย็นที่กลับมาก็จะพบกับฮาจิที่มารอรับอยู่หน้าสถานีทุกวัน ทว่าในวันที่ 21 พฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์เสียชีวิตอย่างกะทันหันที่มหาวิทยาลัยด้วยอาการเลือดออกในสมอง ในวันนั้นฮาจิก็ยังคงไปรออยู่ที่สถานีชิบูย่าเหมือนอย่างทุกวัน โดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าของของมันจะไม่เดินออกจากสถานีมาหามันอีกแล้ว หลังจากนั้นฮาจิก็ยังไปรอศาสตราจารย์อยู่ที่เดิมเวลาเดิมทุกเช้าทุกเย็นจนเป็นภาพที่คุ้นตาของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา จนในปี 1932 เรื่องราวของฮาจิโกะก็ได้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์และทำให้ฮาจิโกะเป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่นในชื่อ “ฮาจิโกะผู้ซื่อสัตย์” รูปปั้นฮาจิโกะถูกสร้างขึ้นในปี 1934 ที่หน้าสถานีชิบูย่า บริเวณที่ฮาจินั่งรอเจ้าของของมันเสมอ ซึ่งฮาจิก็อยู่ในวันเปิดตัวรูปปั้นด้วย Cr: commons.wikimedia ฮาจิจากไปในปี 8...
Read More
1
…
9
10
11
12
13
14
Search for:
Recent Posts
รีวิวทัวร์เวียดนามเเบบส่วนตัว4วัน 3คืน คุณขวัญ
รีวิวทัวร์ญี่ปุ่นเเบบส่วนตัวฟุกุโอกะ 6วัน 5คืน คุณเอิร์ธ
รีวิวทัวร์มาเก๊าเเบบส่วนตัว3วัน 2คืน
กิฟุ (Gifu) ชมหมู่บ้านมรดกโลกกลางหุบเขา ราวกับย้อนมาในอดีต
ไซตามะ (Saitama) เมืองที่มีทั้งความทันสมัยและกลิ่นอายของชนบท
Archives
June 2024
May 2024
April 2024
March 2024
February 2024
January 2024
December 2023
October 2023
August 2023
Categories
Uncategorized
บทความต่างประเทศ
บทความทั่วไป
บทความอาหาร
ผลงานของเรา
→
083-751-6663
088-646-6637
096-926-1949
096-896-9386
Facebook
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ “นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”
ยอมรับ
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล