ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงาม และเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ทั้งสภาพอากาศ อากาศหรือแม้แต่กระทั่งสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้ D Plan Tour จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกันแตะละฤดู เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวกับ D Plan Tour ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมกันได้เลยค่ะ !!!

          ฤดูหนาว (Winter)

เที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นเป็นความฝันของใครหลายๆคนที่อยากจะไปสัมผัสกับอากาศที่หนาวเหน็บและหิมะที่นุ่มฟู เป็นฤดูที่ยอดฮิตสำหรับคนไทยที่จะไปเยือนอยากแน่นอน ฤดูหนาวจะเริ่มตั้งแต่ เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ อีกทั้งยังป็นช่วงที่มีการจัดเทศกาลมากมาย เช่น เทศกาลหิมะ งานไฟประดับต่างๆ

1. สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo)
   เป็นสวนสัตว์ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ได้รับความนิยมที่สุดคือช่วงฤดูหนาว เนื่องจากหนึ่งในไฮไลน์ที่ไม่ควรพลาดคือ การชมขบวนพาเหรดของน้องๆเพนกวินที่มีแค่ช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังมีบรรยากาศของหิมะที่ปกคลุมทั่วทั้งสวนสัตว์ สัตว์จากขั้วโลกก็มมีชีวิตชีวามากขึ้น
   
2. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
   ช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงไฮไลท์ในการชมหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เนื่องจากจะมีการจัดเทศกาลแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ หรือ Shirakawago Light Up ที่บ้านแต่ละหลังจะเปิดไฟช่วงค่ำ ทำให้มีบรรยากาศที่สวยงามท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนกับแสงไฟอบอุ่น โดยจะเริ่มช่วงกลางเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
   
3. กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen)
   ตั้งอยู่ที่จังหวัดยามากาตะกินซันออนเซ็นช่วงฤดูหนาว เป็นช่วงที่สวยงามมาก เนื่องจากทั่วทั้งพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ มีแสงไฟสีโทนอบอุ่นด้วยโคมไฟที่เป็นเอกลักษณ์ มีอาคารเก่าแก่สมัยไทโชเรียงรายริมแม่น้ำ

          ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)

เป็นอีกหนึ่งฤดูที่ทุกคนต้องไปทัวร์ญี่ปุ่น เพื่อไปชมดอกซากุระที่ผลิบานสะพรั่ง โดยจะเริ่มช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก อีกทั้งคนญี่ปุ่นเองก็มีความเชื่อว่า ฤดูใบไม้ผลิคือฤดูแห่งการเริ่มต้นใหม่ นอกจาซากุระแล้วยังมีดอกไม้อื่นให้ชมกันอีกด้วย

1. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ (Hitachi Seaside Park)
   เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ  โดยแต่ละฤดูกาลจะปลูกดอกไม้หมุนเวียนกันไปทั้งปี ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น คือ ทุ่งดอกเนโมฟีลาสีฟ้าสดใสที่บานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ ยังมีทุ่งดอกนาร์ซิสซัส ทิวลิป และป๊อปปี้ นอกจากการชมดอกไม้แล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆให้ทำอื่นด้วย เช่น การปั่นจักรยาน
   
2. ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)
   ถนนสายนักปราชญ์ หรือ Tetsugaku no michi ที่นี่เป็นเส้นทางเรียบริมคลองที่มีต้นซากุระเรียงรายตลอดทางประมาณ 500 ต้น ทำให้ช่วงเทศกาลฮานามิ ทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างมาชื่นชมความสวยงามของดอกซากุระ แนะนำให้เริ่มจากวัดคินคะคุจิหรือวัดนันเซนจิ ซึ่งอยู่ทางใต้สุดและเหนือสุดของถนนเส้นนี้ จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สวยงามเมื่อมาทัวร์ญี่ปุ่น
   
3. ป้อมโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku หรือ Goryokaku Park)
   ป้อมโกเรียวคาคุหรืออีกชื่อหนึ่งคือ ป้อมปราการรูปดาว 5 แฉก โดยเป็นแลนด์มาร์คของเมืองฮาโกดาเตะ ภายในป้อมก้จะมีหอคอยโกเรียวคาคุที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองฮาโกดาเตะได้แบบ 360 องศา และเป็นอีกหนึ่งจุดในการชมซากุระอีกด้วย

          ฤดูร้อน

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะมีอุณหภูมิประมาณ 25-35 องศาเซลเซียส จะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม จะมีอากาศร้อนที่สุดคือเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม อาจมีจะฝนตกหนักในช่วงมรสุม อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่มีเทศกาลดอกไม้ไฟ เทศกาลทานาบาตะ เป็นต้น

1. คามิโคจิ
   เป็นอีกหนึ่งฤดูที่เป็นช่วงเวลาที่สวยมากๆ ทั้งต้นไม้ที่เขียวขจีตัดกับสัของลำธารสีเขียวอมฟ้าสดใส โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น เป็นช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบายและสดชื่นเหมาะกับการมีพักผ่อน แต่ก็เป็นช่วงพีคที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่าและปีนเขา
   
2. เจแปนแอลป์ (Japan Alps)
   เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่วิวสวยๆ กับ ทัวร์กำแพงหิมะญี่ปุ่น ในเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route เจแปนแอลป์ คือ ยอดเขาทาเตยามะ มีความสูงประมาณ 3,015 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่จุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นไปอยู่ที่ มุโรโดะ(Murodo) ซึ่งมีไฮไลท์สำคัญ คือ Yuki No Otani หรือ กำแพงหิมะญี่ปุ่น
   
3. ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
   ช่วงหน้าร้อนจะเต็มไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์กับดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมางามความสวงามของดอกไม้ อีกทั้งยังมีโซนเวิร์คช็อป ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์ครีมกลิ่นลาเวนเดอร์ ชา Darjeeling กลิ่นลาเวนเดอร์ เป็นต้น
   

          ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (Autumn)

เป็นอีกช่วงที่คนนิยมไปเที่ยวกัน นั่นคือ ฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลาที่จะได้เห็นการเปลี่ยนสีของต้นไม้จากสีเขียวไปเป็นเหลือง ส้ม แดง แล้วค่อยๆร่วงโรยไป ญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีมากมาย เพราะเต็มไปตัวธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ วันนี้ D Plan Tour จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกันนะคะ : )

1. วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)
   วัดคิโยมิซุ หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดมรดกโลกที่สวยงาม อีกทั้งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม และในนทุกๆปีจะมีงานไฟประดับใบไม้เปลี่ยนสีในงช่วงค่ำคืน ตัดกับตัวอาคารที่เก่าแก่ โดยนักท่องเที่ยวยังมานิยมมาขอพรกับน้ำที่ไหลผ่าน 3 สาย โดยแต่ละสายจะมีความเชื่อแตกต่างกัน คือ เรื่องการเรียน ความรัก และอายุที่ยืนยาว
   
2. สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
   ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองนิกโก้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังได้รับารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และเป็นอีกจุดที่การมาทัวร์ญี่ปุ่นต้องชมใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ตัวสะพานที่มีสีแดงสด รายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีส้ม เหลือง แดง
   
3. อาราชิยามะ (Arashiyama)
   อาราชิยามะ จะตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต (Kyoto) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี โดยยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การนั่งรถไฟสายโรแมนติกชมบรรยากาศ และ การล่องเรือแม่น้ำโฮซูกาวะ ที่ชมวิวหุบเขาและสองข้างทางของแม่น้ำ