บริษัท ดีแพลนทัวร์ จำกัด
083-751-6663 088-646-6637    096-926-1949    096-896-9386 dplantour@gmail.com   @dplantour

Month

October 2023
โอโคโนมิยากิคืออะไร โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) หรือที่เราชอบเรียกกันว่า พิซซ่าญี่ปุ่น ทำจากแป้งสาลีผสมน้ำ คลุกกับกะหล่ำปลีหั่นฝอยและเนื้อสัตว์ ย่างบนแผ่นกระทะเหล็กเป็นแผ่นกลม มักทาซอส บีบมายองเนส และโรยด้วยผงสาหร่ายกับปลาแห้ง เป็นของขึ้นชื่อในแถบคันไซ คำว่า โอโคโนมิยากิ มาจากคำว่า โอโคโนมิ (お好み) ที่แปลว่าตามใจชอบ และ ยากิ (焼き) ที่แปลว่าย่างหรือปิ้ง โอโคโนมิยากิจึงหมายถึงอาหารที่ใส่ส่วนผสมตามใจชอบและนำมาย่าง เครื่องโอโคโนมิยากิมีให้เลือกหลากหลาย เช่น หมู ไก่ ปลาหมึก เบคอน ชีส โมจิ กิมจิ เป็นต้น ฮิโรชิมะยากิ (Hiroshimayaki) โอโคโนมิยากิมี 2 ประเภท ได้แก่ โอโคโนมิยากิแบบคันไซ และโอโคโนมิยากิแบบฮิโรชิม่า หรือที่เรียกว่า ฮิโรชิมะยากิ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การใส่เส้นลงไปด้วย ฮิโรชิมะยากิจะใส่แป้งลงไปก่อน ตามด้วยกะหล่ำปลีที่ซอยเป็นเส้นยาว ถั่วงอก หมูสามชั้น เส้นยากิโซบะ ปิดท้ายด้วยไข่ เรียงซ้อนเป็นชั้นโดยไม่ผสมเหมือนแบบธรรมดา มักทาซอสรสหวาน ขณะที่แบบธรรมดาจะใช้ซอสออกรสเผ็ด และไม่ใส่มายองเนส ถึงอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านและความชอบส่วนบุคคล...
Read More
จากเด็กน้อยแข็งแรงน่าอัศจรรย์ มาเป็นนักรบผู้กล้า…“คินทาโร่” เจ้าหนูทองคำ นานมาแล้วมีองค์รักษ์คู่ใจจักรพรรดิคนหนึ่งชื่อว่า Sakata Kurando เขาเก่งในเรื่องศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ และมีภรรยาที่แสนจะน่ารักชื่อว่า Yaegiri ด้วยความที่เป็นคนโปรด จึงถูกขุนนางที่อิจฉาใส่ความ และถูกไล่ออกจากวังที่เกียวโต กลายเป็นโรนิน (Ronin) หรือซามูไรผู้ไร้เจ้านาย ชีวิตของพวกเขาจึงตกต่ำและยากจนลง Kurando ไม่สามารถทนรับชะตากรรมไหว จึงฆ่าตัวตาย ส่วน Yaegiri ภรรยาม่ายผู้โศกเศร้าก็ย้ายไปอยู่ยังที่ห่างไกลแถบภูเขาอาชิงาระ (Mt. Ashigara) และคลอดลูกชายของ Kurando คนหนึ่ง เด็กคนนี้ชื่อว่าคินทาโร่ (Kintaro) เกิดมาก็แข็งแรงอย่างน่าอัศจรรย์ กล่าวกันว่าสามารถเดินและวิ่งได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว เมื่อออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน คินทาโร่จะใส่ 腹掛け (haragake) สีแดง ซึ่งเป็นเอี๊ยมที่เด็กเล็กๆ ชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนนิยมใส่กัน ซึ่งแม่ของคินทาโร่ได้ปักตัวอักษร “Kin” ที่แปลว่าทองไว้บนเสื้อด้วย เพื่อนๆ ของคินทาโร่ คือเหล่าสัตว์ที่อาศัยอยู่บนภูเขา เช่น กระต่าย ลิง และหมี สัตว์ทุกตัวรักคินทาโร่ พวกเขามักจะเล่นซูโม่กัน แต่ไม่เคยมีใครชนะคินทาโร่ได้ แม้แต่หมีซึ่งยอมให้เขาขี่หลังไปไหนมาไหนอยู่เสมอ วันหนึ่งคินทาโร่ถือขวานคู่ใจ อาวุธประจำกายของเขา...
Read More
คิวโด (弓道) มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับกีฬายิงธนูสากล แต่ก็มีองค์ประกอบทางจิตวิญญาณที่สำคัญ คิวโดเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักของญี่ปุ่น ฝึกฝนโดยทั้งผู้เรียนและปรมาจารย์ ถูกพัฒนาขึ้นโดยเหล่านักรบซามูไรและพระในสายเซนมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ส่งผลให้เกิดศิลปะแห่งความงาม ทักษะ และความละเมียดละไม คิวโดคืออะไร? คิวโดเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีพื้นฐานมาจากการยิงธนูแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และแปลว่า ‘วิถีแห่งธนู’ เดิมทีได้รับการพัฒนาสำหรับการล่าสัตว์และถูกพัฒนาจนสมบูรณ์แบบโดยซามูไร มันได้รับบทบาทให้เป็นวิถีทางจิตวิญญาณและได้รับการยอมรับจากพุทธศาสนาสายเซน (ฌาณ) ปัจจุบัน มีการฝึกฝนคิวโดไปทั่วโลก และถือเป็นเส้นทางสู่ความสงบทางจิตวิญญาณ ความจริง และความงาม ประวัติความเป็นมาของคิวโด การยิงธนูนั้นเป็นศาสตร์ที่ฝึกฝนกันโดยเหล่านายพรานทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ และแม้ว่ามันอาจเริ่มต้นมาจากความต้องการพื้นฐาน คิวโดก็ได้พัฒนาเป็นศิลปะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ศิลปวัตถุเกี่ยวกับการยิงธนูที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นมีขึ้นในยุคยาโยอิ (300 ปีก่อนคริสตกาล – 300 ปีหลังคริสตกาล) และภาพที่วาดจากยุคหินตอนปลายในญี่ปุ่นแสดงให้เห็นตำแหน่งที่โดดเด่นของที่จับ (เรียกว่า นิกิริ 握り) ที่ปลายล่างสุดของคันธนูขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความเก่าแก่ของการออกแบบคันธนูแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ในช่วงที่ปกครองโดยระบบศักดินาของญี่ปุ่น (1185-1600) วิชายิงธนูได้รับการฝึกฝนโดยผู้ที่อยู่ในวรรณะซามูไรควบคู่ไปกับวิชาดาบ ในขณะที่อย่างหลังนั้นเป็นที่รู้จักมากกว่า แต่อย่างแรกซึ่งเรียกว่า คิวจุตสึ (弓術 ศาสตร์แห่งธนู) ก็มีคุณค่ามากและมักใช้เป็นเครื่องระบุว่าซามูไรคนนั้นเป็นนักรบมืออาชีพ มักใช้ขณะอยู่บนหลังม้า ทักษะที่จำเป็นในการยิงให้ได้ประสิทธิภาพก็มากโข จึงมีโรงเรียนสอนยิงธนูเปิดสอนในรูปแบบต่าง ๆ ในช่วงศตวรรษที่ 15 Heki Danjo...
Read More
วากาชิ (Wagashi) คืออะไร วากาชิ คือ ขนมหวานญี่ปุ่นโบราณ วัตถุดิบหลักคือถั่วแดงและแป้งข้าวเหนียว มักใช้กรรมวิธีนึ่ง เผา ปิ้ง หรือปั้นในการทำ โดยตัวอักษรว่า วะ (和) หมายถึง ญี่ปุ่น และ กาชิ (菓子) แปลว่าขนม วากาชิทั้งเป็นของว่างยามบ่าย ใช้ในพิธีชงชา และมอบเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญต่างๆ วากาชิ ส่วนมากรสหวานแหลม จึงนิยมทานกับชาเขียวรสขมที่ตัดรสกันเป็นอย่างดี วากาชิที่เราคุ้นเคยได้แก่ โมจิ ดังโงะ ไดฟุกุ เนริกิริ โยกัง เซมเบ้ เป็นต้น ศิลปะทั้ง 5 ของ วากาชิ 1 รูปลักษณ์ภายนอก นอกจากหน้าตาสีสันที่สวยงามน่ารับประทานแล้ว วากาชิยังมักสื่อถึงฤดูกาลอีกด้วย 2 รสชาติ การรับรูรสชาติที่สำคัญของวากาชิคือการรับรสชาติของวัตถุดิบจากธรรมชาติ 3 รสสัมผัส หากเป็นขนมที่มีความนุ่มก็จะนุ่มละมุนลิ้น ให้ความรู้สึกเหมือนละลายในปาก ส่วนขนมที่มีความกรอบก็จะกรอบแข็งกำลังดี 4 กลิ่น วากาชิจะมีกลิ่นหอมละมุนของตัววัตถุดิบ เช่น ข้าว...
Read More
1 2 3 4 5