@dplantour
เกาะฮอกไกโด แดนสวรรค์ของคนที่รักธรรมชาติ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ป่า ภูเขา ทะเล ทะเลสาป ภูเขาไฟ บ่อน้ำผุร้อน ข้าวปลาอาหารเลิศรส ฤดูกาลที่หลากหลาย ทำให้ฮอกไกโดเป็นดินแดนที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้ง ฮอกไกโดเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองมาจากเกาะฮนชู อยู่ตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น เมืองหลวง คือ “ซัปโปโร” ศูนย์กลางความเจริญของเกาะฮอกไกโด
เกาะฮอกไกโดได้รับฉายา “ครัวแห่งญี่ปุ่น” เพราะความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทำให้เกาะฮอกไกโด อุดมไปด้วย พืชผักผลไม้ อาหารทะเล นมชีส และขนมอร่อยๆ มากมาย ฮอกไกโด เที่ยวได้ทุกฤดู เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
จุดเช็คอินสุดฮิตสำหรับชาวโซเชียล ไปถ่ายรูปชิคๆ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเทพนิยาย เป็นบ้านกระท่อมไม้กลางป่าใหญ่ ในวันที่หิมะโปรยปรายบรรยากาศก็ยิ่งสวยเป็นพิเศษ ซึ่งกระท่อมไม้แต่ละหลังสร้างจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมด โดยเปิดเป็นร้านค้ามากกว่า 15 ร้าน ตั้งเรียงรายเป็นแถวทอดยาว มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายสินค้า เช่น เทียนหอม งานไม้ หรืองานฝีมือ พอตกกลางคืนจะมีการเปิดไฟตามทางเดิน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังรักแสนโรแมนติกเลยทีเดียว
หรือฉายาป้อมดาวห้าแฉก ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกดาเตะ ในฮอกไกโด เป็นที่เที่ยวฮอกไกโดอีกที่ที่น่าสนใจและยอดนิยมไม่ใช่แค่เพียงในแง่ประวัติศาสตร์แต่ยังรวมไปถึงเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมอีกด้วย ที่มีฉายาดาวห้าแฉกก็เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่รูปดาวห้าแฉก
ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์และธรรมชาติรวมกัน ส่งผลให้บ่อน้ำกลายเป็นสีฟ้าสวยงามอย่างที่เห็น ซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อน เพื่อป้องกันภัยจากพายุ ที่จะทำให้โคลนถล่มจากภูเขาไฟในบริเวณนั้น การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดขนาดนี้
ไม่ว่าจะฤดูไหน หนึ่งในพิกัดห้ามพลาดเมื่อมา ก็คือ คลองโอตารุ สถานที่ชิลๆ บรรยากาศริมคลองสายเล็กๆ ที่มีทางเดินทอดยาวและเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหิมะ สวยงามเกินบรรยาย
มีอีกชื่อนึงว่า Hell Valley ตั้งอยู่เหนือย่านน้ำพุร้อนโนโบริเบทสึ เป็นหุบเขาที่ห้อมล้อมที่งดงามและเลื่องชื่อ รวมถึงลำธารแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถัน และเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำพุร้อนชื่อดังนั่นเอง สามารถเดินไต่เขาไปตามเส้นทาง มีบ่อน้ำพุ บ่อโคลนตลอดข้างทางได้ผ่อนคลายแช่เท้าได้อีกด้วย
จุดเด่นเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ที่มีเส้นรอบวงประมาณ 40 กิโลเมตร และความพิเศษคือหน้าหนาว น้ำไม่แข็งตัว หน้าร้อน ก็มีอากาศที่เย็นสบาย เป็นสถานที่เหมาะแก่การเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมสิ่งแวดล้อมรอบๆที่เต็มไปด้วยแหล่งธรรมชาติ
ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเบียร์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แต่เดิมที่นี่เคยถูกใช้เป็นโรงงานหมักเบียร์ ผลิตเบียร์คุณภาพเยี่ยมมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1877 และได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ.1987
เป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ เป็นศาลเจ้าที่มีเทพเจ้าประทับอยู่ถึง 4 องค์ด้วยกันคือ เทพโอคุนิทามะ เทพโอนามุจิ เทพซุกุนาฮิโคนะ และเทพเจ้าองค์ที่ 4 ที่สถิตอยู่ที่นี่ก็คือ จักรพรรดิเมจิ นั่นเอง
ตั้งอยู่ในเมืองอาซาฮิคาวะ สวนสัตว์ที่เปิดให้ชมเหล่าบรรดาสัตว์ฤดูหนาวหลากหลายชนิดในมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนที่ไหน เช่น เข้าไปในโดมแก้ว แวะทักทายเจ้าหมีขั้วโลก หรือเดินชมอุโมงค์แก้ว เพื่อชมเพนกวินว่ายน้ำ สำหรับไฮไลท์ในฤดูหนาวที่พลาดไม่ได้ ต้องไปชม ขบวนพาเหรดเพนกวิน แบบใกล้ชิด
เมื่อพูดถึงทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาของญี่ปุ่น ก็ต้องนึกถึงที่ โทมิตะฟาร์ม ในเมืองนากะฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งที่นี่เคยมีขนาดพื้นที่ถึง 1,400 ไร่ในปี 1970 ทุ่งลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งสวยงามในช่วงฤดูร้อน