“วาซาบิ” (Wasabi) เครื่องปรุงสีเขียวกลิ่นฉุนรสชาติเผ็ดร้อน พบเจอกันได้บ่อยๆ ตามร้านอาหารญี่ปุ่น กลิ่นก็ฉุน แถมรสชาติก็เผ็ด หลายคนคงสงสัยว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงยังใช้วาซาบิ เป็นหนึ่งในเครื่องปรุงมาอย่างยาวนาน วาซาบิเป็นพืชในหมวดหมู่ผักรากหรือผักมีหัว สีเขียวสด เจริญเติบโตค่อนข้างช้ามาก ต้นวาซาบินั้นเป็นพืชที่ปลูกยาก ต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ต้องมีดินที่ดีและปลูกในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้ต้นวาซาบิเติบโตได้ดี เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้วาซาบิแท้ๆ มีราคาที่สูงมาก
ในการนำต้นวาซาบิมาแปรรูปจนเป็นเครื่องปรุงแบบที่เราเห็นกันนั้น จะต้องนำหัวของต้นวาซาบิสดมาปอกแล้วขูด โดยใช้ที่ขูดเซรามิกแบบมีปุ่มพิเศษ ขูดออกมาเป็นเนื้อวาซาบิสดพร้อมทาน หรือนำมาทำเป็นวาซาบิแห้ง โดยใช้ต้นวาซาบิสดทำไปตากแห้งแล้วมาบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นเครื่องเทศ
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง วาซาบิ มีสารประกอบบางชนิดที่เป็นประโยชน์ เช่น Isothiocyanates ซึ่งเป็นสารป้องกันมะเร็งที่มักจะมีในพืชตระกูลกะหล่ำ พบว่าการบริโภคผักตระกูลกะหล่ำอย่างวาซาบิที่มากขึ้น อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งหลายชนิดเช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ลดการอักเสบ วาซาบิเป็นพืชที่มีคุณสมบัติที่มีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบที่มีศักยภาพ การอักเสบเป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ การบาดเจ็บและสารพิษต่างๆ เมื่อร่างกายเกิดการอักเสบ และไม่มีการควบคุม จนเกิดเป็นอาการเรื้อรัง
ลดความอ้วน หลายคนเชื่อว่า อาหารรสเผ็ดร้อน ช่วยลดความอ้วนได้ เพราะเป็นการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มากขึ้นนั่นเอง โดยเคยมีการทดลองกับหนูแล้วพบว่า สารสกัดจากใบของต้นวาซาบิที่หนูทดลองกินพร้อมกันกับอาหารไขมันสูง อาจช่วยยับยั้งการเกิดภาวะอ้วนจากอาหารที่มีไขมันสูงได้
ป้องกันฟันผุ วาซาบิมีสารไอโซไทโอไซยาเนทที่อาจมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุ เช่น เชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัสมิวแทนส์
แม้ว่าการกินวาซาบิเพื่อการบริโภคอาหารทั่วไปจะปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การกินวาซาบิเพื่อการรักษาโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะยืนยันประสิทธิผลและความปลอดภัยในการบริโภควาซาบิเพื่อการรักษาหรือป้องกันโรคได้อย่างชัดเจน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ จากวาซาบิ