ต๊อกบกกี” หรือ “ต๊อกโบกี” แป้งของต๊อกโบกีที่มีความเหนียวนุ่ม หนึบหนับ ผสมเข้ากับตัวซอสเข้มข้น ทำให้ได้รสชาติที่อร่อย ซึ่งคำว่า “ ต๊อก” ก็คือ ขนมทำจากข้าว ส่วนคำว่า “ บกกี ” คือ การผัด ต๊อกบกกี จึงแปลว่า อาหารที่ทำจากแป้งข้าว นำไปผัด ลักษณะของแป้งต๊อกนั้นเป็นแท่ง สีขาว ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมเลย และเนื้อสัมผัสก็จะเด้งๆ เหนียวนุ่ม พอได้ทานคู่กับซอสสีแดงเข้มข้นที่มาคู่กันแล้วนั้น ทำให้ได้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นครับ
ต๊อกบกกีมีต้นกำเนิดย้อนไปถึงราชวงศ์โชซอน เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 ในช่วงเวลานั้น ต๊อกบกกี เป็นที่รู้จักในชื่อ”คาเเรต๊อก” โดยแต่เดิมจะนำแป้งต๊อกมาผัดกับซอสถั่วเหลืองซึ่งจะเรียกเมนูนี้ว่า “กุงจุงต๊อกบกกี” นั่นเอง หลังจากนั้นเริ่มการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อมีการนำ โคชูจัง (พริกเกาหลี) มาเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งการเพิ่มโคชูจังทำให้ต๊อกโบกีมีรสเผ็ดที่โดดเด่น จึงกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ประชาชนทั่วไป และทำให้เป็นอาหารเกาหลียอดนิยม แพร่หลายทั่วประเทศ และในปัจจุบันต๊อกโบกียังคงเป็นอาหารหลักในอาหารเกาหลี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรม และประเพณีการทำอาหารของเกาหลีเลยก็ว่าได้
เเป้งต๊อกบกกี ทำจากแป้งข้าวเจ้า และน้ำเป็นหลัก แต่บ้างก็ผสมแป้งข้าวเหนียวลงไปด้วย เพื่อให้เนื้อแป้งต๊อกเหนียวขึ้น จากนั้นแช่น้ำค้างคืน นำไปบดแล้วนึ่ง หลังจากนั้นก็นวด และตัดแบ่งเป็นรูปทรงกระบอก หรือรูปทรงต่างๆตามต้องการ มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ว่า สุขภาพดี และชีวิตยืนยาว
นอกจากของคาวแล้ว แป้งต๊อกยังเอามาทำเป็นของหวานได้ด้วยค่ะ ส่วนใหญ่จะเอามาทำเป็นขนมมงคลต่างๆ และขนมแต่ละอย่างก็ให้ในโอกาศที่ต่างกันไป เช่น มูจีกีต๊อก จะเป็นขนมที่ให้ในเทศกาลสำคัญ, กีจูต๊อก นิยมกินช่วงฤดูร้อน หรือ แพ็คซอลกี จะเป็นขนมมงคลที่ให้กับเพื่อนบ้านที่มีเด็กอายุครบ 100 วันนั่นเอง